เหงาเหงา กับฝักบัว

สวัสดีคะเพื่อนเพื่อนวันนี้นี่รู้สึกเหงาเหงา ก็ไม่ได้วาดอะไรมาก

เพียงหยิบกระดาษ80ปอนกับดินสอมาวาดนั่งรับแดดยามเช้า
นี่ว่าดูไปก็สวยดีนะ ชมตัวเองอีกและ 55

" แม่มด "

Little Home

วันนี้นี่ว่าเรามาวาดบ้านเล็กเล็กสีสดกันดีกว่าคะ

เริ่มด้วยการหาเฟรมผ้าใบสี่เหลี่ยมฝืนผ้าขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป

รูปนี้รายละเอียดค่อนข้างน้อยเราร่างภาพคร่าวคร่าวเลย

นี่เริ่มลงสีจากท้องฟ้าก่อน โดยลงสีฟ้าอ่อนอ่อนแล้วค่อยแตะเข้มลงไปในบางส่วนให้ดูมีน้ำหนักมีนูนมีลึก เสร็จจากสีฟ้าก็เริ่มเอาสีขาวมาปาดเป็นเมฆดอกกระหล่ำ แตะน้ำมันลินซีดเล็กเล็กก็พอให้สีไม่หืดมากก็พอ

แล้วก็ค่อยค่อยเก็บป่าเก็บหลังคาทาสีบ้านแต่จำไว้ว่าแปะสีอ่อนก่อนแล้วค่อยค่อยแปะเข้มเติมรายละเอียด

และเราก็เก็บรายละเอียดไปทีละส่วนเรื่อยเรื่อยจนเต็มภาพ

 จากการเก็บรายละเอียดเรื่อยเรื่อยทีละส่วนบ้านเล็กเล็กของนี่ก็เสร็จแล้วคะ ^^

" แม่มด "

Preedano Painting, ภาพวาดด้วยกาแฟ, เทคนิคสีกาแฟ: 17 กรกฎาคม 2554 @ ไปเป็นวิทยากร (ครู) ฝึกสอนคนพิการและไม่พิการ ในงานค่าย Art for All ที่วังรี รีสอร์ท จ.นครนายก ตอนที่ 2#c4599160573037753885

http://preedano.blogspot.com/2011/01/10.html#.TtIAOFN3nVI.blogger

ประวติ พี่โก๊ะ " ศิลปินในดวงใจ"

ประวัติของวินเซนท์ แวน โก๊ะ (ศิลปินของโลก)

วินเซนต์ แวน โก๊ะ ถูกยกย่องให้เป็นจิตรกรชาวดัชท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถึงแม้ว่าชื่อเสียง ของเขาเพิ่งจะมาโด่งดังเอาในช่วง 3 ปีสุดท้ายของชีวิตการเป็นจิตรกรตลอด 10 ปี ก็ตาม แต่เขาก็ได้สร้างอิทธิพลต่อ ศิลปะแบบอิมเพรสเช่นนิสท์ แบบโมเดินท์ อารต์ เอาไว้มากมาย สร้างผลงานภาพเขียนสีน้ำมันกว่า 800 ภาพ และภาพวาดอีกกว่า 700 ภาพ ซึ่งตลอดชีวิตของเขานั้นมีเพียงภาพเดียวที่ขายได้ ความเจ็บป่วยทางสมอง และจิตใจของ แวน โก๊ะนั้นแสดงออกมาทางภาพที่เขาเขียน ด้วยการใช้สีอันร้อนแรง การปัดพู่กันแบบหยาบๆ และรูปแบบของลายเส้นที่ใช้จนในที่สุดก็ได้ผลักดันให้ เขา จบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตาย

วินเซนต์ แวน โก๊ะ เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ปี ค.ศ. 1853 ที่ซันเดิรท์ ย่านบราแบรนท์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ วินเซนต์เป็นบุตรชายคนโต บิดาเป็นนักบวชนิกาย โปรแตสแตนท์ เมื่อแวนโก๊ะอายุได้ 16 ปี เขาได้ไปฝึกงานขายภาพศิลปะที่ฮูเก้นท์ เขาทำงานขายภาพทั้งในลอนดอน และปารีสไปจนกระทั่งถึงปีค.ศ. 1876

แวน โก๊ะก็เริ่มตระหนักว่า เขาไม่ชอบงานขายภาพที่เขาทำอยู่เลยประกอบกับถูก
ปฏิเสธความสัมพันธ์จากหญิงที่ตนรัก ทำให้เขาเริ่มทำตัวออกห่างจากผู้คนมากขึ้น และตัดสินใจที่จะออกบวช แต่เขาก็ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเขา ไม่สามารถผ่านการทดสอบให้เข้ามาเป็นนักบวชได้ ในที่สุดเขาก็กลายเป็นนักเทศน์ไป และในปีค.ศ.1878 เขาได้เดินทางไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเบลเยี่ยมเพื่อ ทำการ เผยแพร่ศาสนา โดยพกพาเอาความยากจนค่นแค้นไปตลอดการเดินทางจากการเด ินทาง ครั้งนี้ แวนโก๊ะ ได้มีปากเสียงกับนักเทศน์ผู้อาวุโส ทำให้เขาถูกขับออกจากกลุ่มในปี ค.ศ.1880 ในสภาพของคนสิ้นไร้ และสูญเสียความเชื่อของตนไป เขาจมอยู่กับ ความผิดหวัง และได้เริ่มเขียนรูป แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักได้ว่า เขาไม่สามารถที่จะ เรียนรู้การเขียนภาพด้วยตนเองได้

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเดินทางไปบรัสเซลเพื่อเรียน การเขียนภาพ

ในปี ค.ศ.1881 แวน โก๊ะได้กลับมาทำงานที่ฮูเก้นท์อีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มทำงานกับ ช่างเขียนภาพทางภูมิศาสตร์ ที่ชื่อ อันตน มัวร์ ฤดูร้อนของปีถัดมาได้เริ่มการทดลอง การเขียนภาพด้วยสีน้ำมัน และด้วยเสียงเรียกร้องภายในจิตใจของ แวน โก๊ะ ให้ไปใช้ ชีวิตตามลำพังอยู่กับธรรมชาติ ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางไปยังหมู่บ้านของชาวดัชท์ เพื่อเริ่มการเขียนภาพทิวทัศน์ที่งดงามตามท้องที่ต่า งๆ เขาใช้ชีวิตในแต่ละวันไปกับ การเขียนถึงสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเขา ในปี ค.ศ.1883 เขาได้สร้างงานเขียนภาพชิ้นแรก ขึ้นมา โดยให้ชื่อภาพว่า " โปเตโต อีทเตอร์ "

เมื่อความเหงาและความอ้างว้างเริ่มเข้ามาแกาะกุมจิตใ จของ แวน โก๊ะ เขาจึงออกจาก หมู่บ้านและเข้าศึกษาต่อที่ แอนท์เวอป์ ในเบลเยี่ยม แต่เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะปฏิบัติ ตามกฎของการเรียนที่นั่นมากนัก ช่วงที่เรียนอยู่ที่แอนเวอป์ เขาได้รับแรงบันดาลใจ จากจิตรกรที่ชื่อ ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ และได้เริ่มสนใจภาพพิมพ์ของญี่ปุ่นด้วย ในที่สุด เขาก็ได้เลิกเรียน เพื่อไปยังปารีส ทีนั่นเขาได้พบกับ เฮนรี่ เดอ ตัวรูส และจอร์จีนส์ รวมทั้งศิลปินอิเพราสเช่นนิสท์อีกหลายคน เช่น คามิล ปิสซาโร โซรัส และคนอื่น ๆ การใช้ชีวิต 2 ปีเต็มที่ปารีสนั้น ได้ขัดเกลาฝีมือในการเขียนภาพของ แวน โก๊ะ ให้ เฉียบคมยิ่งขึ้น
เขาเริ่มใช้สีสันที่มีชีวิตชีวา และไม่ยึดติดอยู่กับการเขียนภาพแบบเก่าๆ
วินเซนต์ แวน โก๊ะ ใช้ชีวิตในตัวเมืองปารีส ได้สักพักก็เริ่มเบื่อ เขาจึงออกจากปารีส ไปในปี ค.ศ.1888

เพื่อไปยังเมืองอาเรสทางตอนใต้ของฝรั่งเศษ ที่เมืองอาเรสนั้น
แวน โก๊ะได้เช่าบ้านหลังหนึ่ง แล้วตกแต่งบ้านด้วยสีเหลืองทั้งหมด เขาหวังที่จะตั้ง กลุ่มศิลปินอิมเพรสเช่นนิสท์ขึ้น ในเดือนตุลาคม จอร์จีนส์ได้มาอยู่ร่วมกับเขาแต่ ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองก็ต้องขาดสะบั้นลงในคืนวันค ริสตมาส อีฟ จอร์จีนส์ ได้โต้เถียงอย่างรุนแรงกับแวน โก๊ะ ทำให้แวน โก๊ะ เกิดบ้าเลือดขึ้นมาแล้วตัดใบหู ของตัวเอง ทำให้จอร์จีนส์จากไป และตัวของเขาเองต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล การแสดงอาการต่างๆ ของแวน โก๊ะ นั้น ทำให้เห็นถึงสภาพจิตใจและประสาทที่ผิดปกติ ในที่สุดเขาก็ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้า เป็นเวลา 1 ปีเต็ม เมื่อ แวน โก๊ะ ออกจากโรงพยาบาล เขาได้ไปอาศัยอยู่กับศิลปิน นักฟิสิกส์ ได้ประมาณ 2 เดือน และในวันที่ 27 กรกฎาคมของปี ค.ศ.1890 เขาได้ยิงตัวเอง และเสียชีวิตในอีก
2 วันต่อมา

ช่วงชีวิตของ แวน โก๊ะตอนที่อยู่ที่อาเรสนั้น ได้สร้างผลงานเขียนภาพที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ มากมาย เขาเขียนภาพของธรรมชาติอันงดงาม ภาพทุ่งหญ้ายามต้องแสงอาทิตย์ ภาพของดอกไม้นานาชนิด และภาพดอกไอริสที่มีชื่อเสียงนั้นสามารถขายได้ถึง
53.9 ล้านดอลลาร์ในเวลานั้น

ตัวอย่างภาพศิลปะที่พอจะคุ้นตาของศิลปินท่านนี้










Credit By SPU.ac.th

Sun Flower

 ผ้าใบที่เราทำผิดพลาดไปแล้ว นำกลับมาทำใหม่ดีกว่า

 เริ่มด้วยการลงสีพื้นก่อนเลย กลบเกลี่ยน อิ อิ

 เรามาต่อกันด้วยการร่างภาพ โดยใช้สีที่ไกล้เคียงกันกับสี แบบที่เราจะวาด จะได้ไม่โดด

 เริ่มลงดอกกันเลยโดย ลงสีอ่อนอ่อนลงไปก่อน

และเราก็ค่อยค่อยเก็บรายละเอียดทีละนิด เราเห็นสีในในแบบเราก็แปะสีนั้นลงไป
                                                                                                     
                                                                                                " แม่มด "

" Sun flower " Step By Step

 

ว่าด้วยsunflower step by step นี่ว่าพวกเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าคะ

 สเตปที่หนึ่งร่างภาพก่อนเน๊อะ แต่เว็ตนี้นี่ลืมเก็บภาพร่างไว้ มาถึงก็ลงพื้นดอกไปแล้ว^^

 สเตปที่สองเก็กระถางกัน

 เก็บเรื่อยเรื่อย

 ถมให้เต็ม

 เริ่มเห็นเป็นรูปร่างแล้ว

 ถมแบล็กกราวต่อ

สีน้ำมัน วาดง่ายง่าย ไม่ยากอย่างที่คิด

ส่วนตัวนี่ก่อนที่จะมาวาดสีน้ำมันรู้สึกว่า มันยากจัง ดูมันเยอะ และคงซับซ้อนน่าดู

จะเปรียบก็เหมือน ผู้ชายอ้วนหน้าตาใจร้ายใจร้ายหน่อย ไม่น่าคบหา

แต่พอได้เริ่มเรียนรู้พูดคุย  ก็ได้รู้ว่า จริงจริงแล้วใจดีนะ มีอารมณ์ขันอีกต่างหาก

สีน้ำมันก็เหมือนกันดูเหมือนจะยุ่งยาก แต่จริงไม่เลยคะ

แถมสีน้ำมันยังเป็นสีใจบุญที่ให้โอกาสเราด้วย

เวลาที่เราทาผิด แห้ง ทาทับใหม่ได้ไม่เสีย แถมสีน้ำมันยังแห้งช้าเราก็มีเวลาเกลี่ย

ง่ายดีเน๊อะ พรุ่งนี้นี่จะพาเพื่อนเพื่อนไปวาดกันที่ละขั้นตอน

ให้ดูกันชัดชัดเลยว่าง่ายนิดเดียว แค่แปะ แปะ

มันต้องแบบใหนอะ ถึงจะเรียกว่า "สวย" งานศิลปะ

 " สวย "  คำสั้นสั้นเน๊อะ  แต่นี่จะอธิบายสั้นสั้นคงไม่ได้  นี่ว่าภาพวาด มันก็เหมือนเสื้อผ้า เพลง หญิงสาว ชายหนุ่ม คือมันมีคำว่า"รสนิยม"เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อย่างนี่ชอบใส่กระโปรงยาว แม่ซื้อกางเกงขาสั้นให้นี่บอกไม่สวย

อย่างภาพวาดก็เหมือนกันถ้าคุณชอบอะไรที่เหมือนจริงอย่างกับภาพถ่าย คณอาจจะบอกว่างานของพี่GoGh ไม่เอาใหนเลย ไม่สวย เพราะรสนิยมคุณคือเรียลลิสติก

แต่ถ้าถามรสนิยมนี่ งานในแบบเรีนลลิสติก อย่างในยุก รีลลิซึม หรือ นีโอคลาสสิค  ที่มันเหมือนจริงมากมาก นี่ก็มองว่า ไม่สวย
แต่นี่ไม่เคยบอกว่างานศิลปะชิ้นใหน ไม่สวยนะ นี่บอก "ไม่ค่อยถูกใจ" เพราะนี่รู้งานแบบนั้นไม่ใช่รสนิยมเรา  ของบบนี้ชอบใครชอบมันเน๊อะ เพราะงั้นสวย ไม่สวย อยู่ที่ว่าชอบแบบใหน
                                                                                  
                                                                                           " แม่มด "

มือใหม่หัดวาด(ตัวอย่างงานบางส่วน)

วันนี้มีเวลาน้อยมาก เลยเอาตัวอย่างงานเล็กเล็กมาให้เพื่อนเพื่อนดูกัน

แล้วนี่จะทยอยทำ ลำดับขั้นตอนการวาดให้ดูแต่ละภาพในวันต่อต่อไปนะคะ

ต้องเตรียมอะไรบ้างจะวาดสีน้ำมัน

ว่าด้วยวัสดุอุกรณ์ที่พวกเราจะต้องใช้ในการวาดสีน้ำมันก็ไม่มากไม่น้อย มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

อันดับแรกเลยที่เราต้องมีก็คงเป็น
หนึ่ง >^_^< แบบที่เราจะใช้วาด จะเป็นภาพถ่ายหรือ สถานที่จริงก็แล้วแต่เราถนัด
สอง >^_^< สีน้ำมัน Oil Color
สาม >^_^<น้ำมันที่ทำให้สีน้ำที่หนืดหนืด ลื่นระบายง่ายมีสองน้ำมันที่นี่ใช้หนึ่งคือลินซีด ไว้ผสมสี สองคือน้ำมันสนไว้ล้างพู่กัน

สี่ >^_^<พู่กัน มีกลม มีแบน เราเลือกใช้ตามลักษณะงานของเรา

ห้า >^_^<ผ้าใบ Canvas

หก >^_^<จานสี Plate  มีหลายแบบให้เลือก อย่างของนี่ใช้ ฟิวเจอบอร์ดตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

เจ็ด >^_^<ขาหยั่ง ไว้ตั้งวาดรูป ถ้าเรายังไม่มีก็พิงกับผนังนั่นแหละ ตอนนี่เป็นมือใหม่หัดวาดยังไม่มีตังค์ซื้อก็ทำแบบนี้ อิ อิ

แปด >^_^<ดินสอ หรือสอสีสำหรับร่างภาพ
เก้า>^_^< ก็อย่างอุปกรณ์จุกจิก  อย่าง  ผ้าขนหนูเล็กไว้เช็ดสี ทำความสะอาดผู้กัน ผ้ากันเปื้อน(เพราะเปื้อนมาก)กระดาษทิชชู่ ซันไลล้างจาน งงอะดิ ^^ เอาไว้ล้างพู่กันตอนเราใช้งานเสร็จแล้วไง หลังจากล้างด้วยน้ำมันสนแล้วรอบนึงก็มาผสมซันไลล้างให้สะอาดพู่กันเราจะได้เก็บไว้ใช้ได้นานนานด้วย ดีมั้ย >^_^<


ได้อุปกรณ์กันแล้ว พรุ่งนี้พวกเราก็มาฝึกวาด กันต่อเลยเน๊อะ

                                                                                      " แม่มด "

Landscape 1

หวัดดีคะเพื่อนอย่างที่ได้สัญญากันไว้เมื่อวานว่าจะมาเริ่มฝึกวาดกันแบบไม่รอช้า
ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่าคะ ด้วยรูปวิวแบบง่ายง่าย สไตน์ แปะแปะ

เดี๋ยวเรามาดูกันเลยว่ามันต้องเริ่มตรงใหนก่อน

สเตปแรกนี่ก็ล้องฟ้าไปก่อนระหว่างที่น้ำมันลินซีดยังไม่แห้งนี่ก็ใช้ผู้กันวนวนเมฆให้เป็นดอกกะหล่ำ

สเตปที่สองนี่ก็เริ่มเอาสีเหลืองกับสี่เขียวมาทำทุ่งหญ้าเพื่อนก็ทาปาดปาดยังไม่ต้องเก็บรายละเอียด เอาแบบคลุมคลุมไปก่อน

สเตปนี่ก็คล้ายคล้ายสเตปสองเอาสีเหลืองสดมาลงตรงทุ่งปาดปาดเป็นแนวตั้งรวมรวมเริ่มเห็นเป็นรูปร่างกันแล้ว ^^

และแล้วก็มาถึงสเตปการเก็บรายละเอียด นี่ใช้ผู้กันกลมเบอร์เบอร์สี่กับเบอร์หกในการจุ่สีแล้วก็เอามาแปะแปะเป็นแนวทุ่ง แนวต้นหญ้าแต่ขั้นตอนการเก็บลายละเอียด เพื่อนเพื่อนต้องผสมสีเดิมให้เข้มขึ้นหน่อยเพื่อภาพของเรา จะได้ดูลึกหรือดูนูนมีมิติ


เป็นยังไงบ้างคะ ง่ายดีมั้ยละ >^_^<  พอรูปเราแห้งดีแล้วก็มาถึงขั้นตอนการจัดแต่งบ้านและถ่ายรูป อิ อิ

วาดง่ายง่ายน่าจะเหมาะกับเพื่อนเพื่อนผู้เริ่มต้น นี่พึ่งฝึกแบ่งปันการวาดใหม่ อาจอธิบายไม่เก่ง หรือหากเพื่อนเพื่อน ไม่เข้าใจขั้นตอนใหนเมลมาคุยกับนี่ได้นะคะ


วาดจนเสร็จแล้วนี่ยังไม่ได้อธิบายถึงอุปกรณ์การวาดเลยด้วยซ้ำ,,, อ้าววว,,,,มาถึงก็วาดเลย(ผิดไปแล้ว) งั้นพรุ่งนี่นี่จะมาแก้ตัว เรื่องการแนะนำอุปกรณ์ที่เราใช้กันในงานสีน้ำมันนะคะ


                                                                                   " แม่มด "